วัดสาลโดม เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะธรรมยุต ที่ตั้งวัดเป็นที่ราบอยู่ริมแม่น้ำ
เจ้าพระยาทางทิศตะวันตก เขที่ ๑๐๐ หมู่ที่ ๗ ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัด
สิงห์บุรี มีเนื้อที่ประมาณ ๘ ไร่ ๑ งาน ๘๙ ตารางวา เดิมเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัย
อยุธยาตอนกลาง ราวปี พ.ศ.๒๑๙๐ ชาวบ้านเรียก “วัดสาลโคตร”
ต่อมาได้กลายสภาพเป็นวัดร้างและชาวบ้านเรียกวัดนี้สืบกันมาว่า “วัดสาลาโค่น”
โดยในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ชาวบ้านได้ฝันเห็นวัดร้างอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยาและเศียรพระพุทธ
รูปที่งดงาม ต่อมาภายหลังจึงได้ค้นพบเศียรพระพุทธรูปเก่าที่บริเวณริมแม่น้ำหน้าวัดร้าง
จึงเรียกว่า “หลวงพ่อเศียร” เพราะมีเพียงเศียรไม่มีองค์พระหลวงพ่อ ได้แสดงอภินิหาร
เป็นที่เลืองลือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก จึงนำไปสู่การทำองค์สรีระขึ้นใหม่ด้วย
การก่ออิฐถือปูน ส่วนพระเศียรสร้างขนาดใหญ่กว่าเดิม แล้วนำ”เศียรพระ”(เดิม)
บรรจุไว้ภายใน
ภายหลังพระธรรมปาโมกข์ เห็นว่านามวัดไม่เป็นมงคล จึงได้ขนานนาม
วัดใหม่ว่า “วัดสาลโคดม” หมายถึง วัดของสมเด็จพระสมณโคดม ปรากฏหลักฐาน
ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๑๘ และได้รับพระราช
ทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๑๙
ความสำคัญของวัดสาลโคดม
ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ความทราบถึงหม่อมหลวงบัว กิติยากร พระชนนีใน
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มีศรัทธารับเป็นประธานในพิธีวาง
ศิลาฤกษ์อุโบสถหลวงพ่อเศียร วัดสาลโคดม โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน ๒๐,๐๐๐
บาท เป็นทุน เริ่มสร้างอุโบสถ และทรงมีพระราชศรัทธา พระราชทานพระราชา
นุญาต ให้เชิญอักษรพระนามภิไธย ส.ก.ประดิษฐานไว้หน้าบันอุโบสถ
หลวงพ่อเศียร ถวายไว้เป็นพุทธบูชาในพระพุทธศาสนาเป็นหลังแรก
เนื่องในมหามงคลวโรกาส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗
รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์ ทีทรงกระทำ
ไว้ดังกล่าวแล้ว จึงอนุมัติงบประมาณจำนวน ๕ ล้านบาท และมูลนิธิพระพุทธ
ชินวรมุนี (หลวงพ่อเศียร) ร่วมสมทบอีกประมาณ ๓ ล้านบาท บูรณะอุโบสถ
ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระนามาภิไธย ส.ก.โดยดีดอุโบสถให้สูงขึ้นประมาณ
๑.๘๐ เมตร เพื่อให้ตัวอุโบสถพ้นจากอุทกภัยและมีภูมิทัศน์ที่สง่างาม
ให้สมพระเกียรติแด่พระองค์ฯ ผู้ทรงเป็นพระแม่แห่งชาติสืบไป
วิธีอารธนาเพื่อขอพร พระพุทธชินวรมุนี(หลวงพ่อเศียร) ให้จุดธูป ๑๖ ดอก
ปักไว้กลางแจ้งแล้วอาราธนาหลวงพ่อเศียรลงแช่น้ำในขันน้ำตั้งไว้ใกล้กับธูป แล้ว
อธิษฐานขอพรจากท่านตามแต่ต้องการ รอจนธูปหมดก็เอาน้ำมนต์มาใช้ได้ที่เคย
ให้สัมฤทธิ์ผลกันมาแล้วมีดังนี้่
๑.ดื่มน้ำมนต์และพรมศรีษะขอความปลอดภัยจากเหตุร้ายต่างๆ
๒.ขอลาภผล ซื้อขาย เอาน้ำมนต์ประพรมที่ดิน สินค้าหรือของที่ต้องการขาย
๓.กินและทาน้ำมนต์แก้การเจ็บปวดต่างๆ
การขอพรธรรมดาๆ เช่น ขอความปลอดภัย เมตตา มหานิยม ขอความสำเร็จ
ในกิจการต้องกระทำเหล่านี้ จะไม่ทำน้ำมนต์ก็ได้ เพียงจุดธูป ๑๖ ดอกกลางแจ้ง
แล้วอธิษฐานจิต ก็ใช้ได้
แผนที่เดินทาง